ทะเลสาบไบคาลได้ชื่อว่าลึกและเก่าแก่ที่สุดในโลก ดุจเพชรเม็ดงาม ที่มีทัศนียภาพที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะต่ำลงไปราว -20 ถึง -40 องศาเซลเซียส
น้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง มีความหนาถึง 80-120 เซนติเมตร จนเราสามารถเดินเท้า และขับรถบนนั้นได้ ภูเขารอบด้านจะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส
ไฮไลท์เด็ดนอกจากทะเลสาบน้ำแข็งไบคาลแล้วยังมีอย่างอื่นที่น่าสนใจอีกนะ

รอยแตกบลูไอซ์ (Blue Ice) กลุ่มน้ำแข็งฮัมม็อก(Ice Hummocks)
แผ่นน้ำแข็งหนาซ้อนทับกันไปมา ที่แตกหักจากการขยายตัวของน้ำในทะเลสาบ สะท้อนแสงไปเป็นสีต่างๆสดใส ตามแสงอาทิตย์ที่หักเห อีกหนึ่งความสวยงามที่จัดว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของทะเลสาบไบคาล เกิดขึ้นจากลมกับอุณหภูมิเย็นยะเยือกของสภาพภูมิอากาศอันรุนแรงในฤดูหนาว

น้ำแข็งหินงอกหินย้อย(Ice Caves and Iciles)
น้ำแข็งกินหินงอกหินย้อย สามารถพบได้ตามบริเวณชายฝั่งและเกาะแก่งในทะเลสาบไบคาล เกิดจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งและกลายเป็นน้ำแข็งทันที ทุกครั้งที่กระทบฝั่งหินงอกหินย้อยเหล่านี้ก็จะขยายใหญ่ขึ้นจนสูงหลายสิบเมตร และทำให้เกิดเป็นถ้ำน้ำแข็งอันสวยงาม แล้วยิ่งหักเหสกับแสงเป็นสีต่างแล้วยิ่งสวยงาม

โขดหินชามาน (Shaman Rock)
เขาหินปูนขนาดไม่ใหญ่นักจะเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้านจะมีถ้ำที่อนุญาตให้เฉพาะคนทรงหรือคนท้องถิ่นจะเรียกว่า"ชาแมน"เท่านั้นที่จะเข้าไปทำพิธีกรรมได้โดยชาวบ้านเชื่อว่าที่นี่คือที่สถิตของเทพเจ้าประจำทะเลสาบไบคาล
บริเวณตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของ “โขดหินชามาน” สถานที่ประกอบพิธีกรรมของหมอผีสื่อวิญญาณตามความเชื่อของชาวไบคาลก่อนที่จะมีการเผยแพร่เข้ามาของศาสนาพุทธจากทิเบตมายังเกาะแห่งนี้ สวยงามมากๆ ทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อน โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
ที่แห่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายทุกฤดู ใครที่อยากพบเจอกับแหล่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลกแบบนี้ ต้องลองไปดูสักครั้งนะคะ สวยงามและอลังการมากจริงๆค่ะ