“วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว” หรืออีกชื่อที่นิยมคือ “วัดเรืองแสง”
เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง จังหวัดอุบลราชธานี โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ ด้านหลังของอุโบสถนั้นเป็นจิตรกรรมต้นกัลปพฤกษ์ เรืองแสงสีเขียว ในเวลากลางคืน เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ในยามพลบค่ำ หรือช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน น่าประทับใจมาก

ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง ออกแบบของช่างคุณากร ปริญญาปุณโณโดยแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่องอวตารโดยใช้สารเรืองแสง หรือ สารฟลูออเรสเซนต์รอบๆ ต้น ซึ่งคุณสมบัติของสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน และจะคายพลังงานออกมาในตอนกลางคืน

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาถ่ายภาพต้นกัลปพฤกษ์ตอนที่เรืองแสงด้านหลัง ก็ ประมาณช่วงเวลา 18.00 -20.00 น.ถ้าโชคดีไปช่วงเวลานี้ท้องฟ้าเปิดจะเห็นดาวระยิบระยับสวยงามมาก

ส่วนตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว แต่มีความกว้างมากกว่า 1 เท่า และความยาวมากกว่า 2 เท่า เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมืออย่างปราณีตค่ะ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า หัวใจหลักของการทำพุทธศิลป์คือ การนำเสนองานศิลปะที่เกิดจากความสงบ ความเพียร ความอดทน และวิสัยทัศน์ ซึ่งงานแต่ละชิ้นต้องคิดจากความคิดอันวิจิตรจริงๆ ค่ะ อย่างแนวคิดการจำลองให้วัดเป็นเขาพระสุเมรุ ตรงกลางของพระอุโบสถ เป็นที่ตั้งของพระประธาน แต่เดิมที่คล้ายกับพระพุทธชินราช ในจังหวัดพิษณุโลก แต่มีการนำเพียงส่วนรัศมีออกไป เพื่อให้แลดูกลมกลืนกันยิ่งขึ้น พร้อมกับได้ทำฉากหลังเป็นต้นโพธิ์ โดยเบื้องบนติดด้วยแผ่นพระทองค่ะ

ด้านหลังของอุโบสถจะมีวิวทิวทัศน์เป็นลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งนอกจากจะสามารถเห็นวิวแม่น้ำโขงแล้วยังสามารถเห็นฝั่งของประเทศลาวได้อีกด้วยซึ่งหากเราเดินทางไปก็ต้องไปในช่วงที่พระอาทิย์กำลังจะตกดิน ซึ่งที่นี่เองก็เป็นวิวในการมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามมากเช่นเดียวกัน

นับว่าเป็นวัดที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์มากๆ เป็น UNSEEN THAILAND อีกที่นึงที่ควรค่าแก่การได้ไปสัมผัส รับรองว่าจะต้องได้ความประทับใจไปอย่างแน่นอน